Quantcast
Channel: อีสานออนไลน์
Viewing all articles
Browse latest Browse all 1730

" วัน " หรือ "เทศกาลเช็งเม้ง"

$
0
0




" วัน " หรือ "เทศกาลเช็งเม้ง"

เทศกาลเช็งเม้ง ถือวันที่ 5 เมษายน ของทุกปี เป็นหลัก แล้วนับวันก่อนถึง 3 วัน และเลยไปอีก 3 วัน รวมเป็น 7 วัน คือ 2 – 8 เมษายน แต่ในปัจจุบันเนื่องจากมีปัญหาการจราจรคับคั่ง เลยขยายช่วงเวลาเทศกาลให้เร็วขึ้นอีก 3 สัปดาห์ ประมาณ 15 มีนาคม – 8 เมษายน แต่ในภาคใต้บางพื้นที่ เช่น จังหวัดตรังจะจัดเร็วกว่าที่อื่น 1 วัน ประมาณวันที่ 4 เมษายนของทุกปี
ชิงหมิง qing-ming,อักษรจีนตัวเต็ม: 清明節, อักษรจีนตัวย่อ: 清明节, พินอิน: Qīngmíngjié) หรือ เช็งเม้ง, เชงเม้ง ตามสำเนียงแต้จิ๋ว “เช็ง” หมายถึง สะอาด บริสุทธิ์ และ “เม้ง” หมายถึง สว่าง รวมแล้วหมายความถึง ช่วงเวลาแห่งความแจ่มใส รื่นรมย์
เช็งเม้ง หรือ เชงเม้ง ในประเทศจีน เริ่มต้นประมาณ 5 – 20 เมษายน เป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศจะคลายความหนาวเย็น เริ่มเข้าสู่ความอบอุ่น มีฝนตกปรอย ๆ มีบรรยากาศสดชื่น ท้องฟ้าใสสว่าง เป็นที่มาของชื่อ เช็งเม้ง
เทศกาล “ เชงเม้ง ” เป็นเทศกาลประจำปี ในการบูชาและแสดงความกตัญญู ต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วของชาวจีน โดยมีอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื๊อ ที่เน้นเรื่องความกตัญญูเป็นสำคัญ ก่อนวันพิธีจะมีการทำความสะอาด หลุมฝัง..พของบรรพบุรุษ หลังจากนั้นในวันพิธี จะมีการเซ่นไหว้อาหารหวานคาว ที่หลุมฝัง..พ เพื่อเป็นการ รำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษ และเป็นการส่งอาหารให้ทุกปี เพื่อมิให้อดอยาก เมื่อไปอยู่อีกภพหนึ่ง คนจีนส่วนใหญ่ จะหยุดงานมาร่วมพิธีกัน พร้อมหน้าพร้อมตา หรือถือว่าเป็นวันพบญาติของคนจีนก็ว่าได้
โดยชาวจีนจะตื่นนอน แต่เช้าเดินทางไปสุสาน จะจัดวาง สำรับสุราอาหารไว้บริเวณด้านหน้าสุสาน แล้วจัดแจง เผากระดาษเงินกระดาษทอง จุดธูปขึ้นและให้ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เป็นคนพูดคุยกับบรรพชนในสุสาน นับเป็นการแสดง ความคิดถึงวิธีหนึ่งของคน ที่ไปเซ่นไหว้ อาหารที่เตรียมไปเซ่นไหว้มีทั้งขนม ผลไม้ เหล้าขาวและ อาหารคาวหวาน หากผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเป็นคนสูบบุหรี่เ มื่อยังมี ชีวิตอยู่ ลูกหลานที่ติดบุหรีจะจุดบุหรี่ ขึ้นมวนหนึ่งพร้อมกับ จุดธูปทำพิธีเซ่นไหว้ ทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้ดอกไม้ หรือพวงมาลัยมาแสดง ความเคารพและการตรำลึกถึง

หลังจากทำพิธีเสร็จแล้ว ผู้ที่ไปเซ่นไหวก็จะถอนต้นหญ้า ที่งอกอยู่บนสุสานทิ้ง พร้อมกับปรับเนินดินของสุสาน ให้สวยงามเพื่อบำรุงรักษาสุสาน ของบรรพบุรุษให้คงอยู่ในสภาพ ที่สมบูรณ์งดงามเช่นเดิม
ทำไมต้องจุดประทัด ? ในสมัยโบราณที่ประเทศจีนมีตัวประหลาดเรียกว่า "ซาน เซียว" รูปร่างคล้ายคนแคระแต่วิ่ง เร็วมาก ทุกปีเวลาใกล้ปีใหม่ตัวซานเซียว จะมาขโมยของกินในหมู่บ้าน ชาวบ้านจะวิ่งขับไล่แต่ไม่ทัน หรือถ้าทันจับตัวซานเซียวได้ ผู้ที่จับต้องตัวซานเซียว ก็จะเจ็บป่วยทำให้คนไม่กล้าสู้กับตัวซานเซียว วันหนึ่งชาวบ้านออกไปตัดไม้ไผ่มาทำเป็นฟืนสำหรับหุงข้าว ระหว่างที่กำลังหุงข้าวอยู่นั้น ตัวซานเซียวกลุ่มหนึ่ง ก็มาพบและตรงเข้ามาจะหยิบข้าวของกิน ชาวบ้านต่างตกตะลึง ด้วยความกลัว ทันใดนั้นปล้องไม้ไผ่ที่โดนไฟก็ประทุระเบิดเสียงดัง ตัวซานเซียวทั้งกลุ่มตกใจ พากันหยุดนิ่งไม่กล้าเข้ามา ชาวบ้านจึงโยนปล้องไม้ไผ่เข้าที่กองไฟอีก ทำให้ไม้ไผ่แตกดัง เป็นระยะ ๆ พวกซานเซียวก็พากันวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว
ตั้งแต่นั้นมาเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ ที่พวกตัวซานเซียวจะลงมาขโมยของกิน ชาวบ้านก็จัดหาปล้องไม้ไผ่ไว้เป็นจำนวนมาก และเอาใส่กองไฟเพื่อให้เกิดเสียงประทุดังขับไล่พวกซานเซียว
ต่อมาก็ได้มีการนำดินประสิวบรรจุในปล้องไม้ไผ่เล็กๆ แล้วนำไปเผาไฟเพื่อให้ระเบิดแล้วเป็นควัน เพื่อขับไล่ตัวซานเซียว และภูตผีร้ายตลอดจนสรรพโรคภัยต่าง ๆ และมักจุดในช่วงเทศกาลปีใหม่
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นความเชื่อต่อ ๆ มาว่า จุดประทัดแล้วจะไล่สิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่เป็นอัปมงคล ออกไป และจะเหลือแต่สิ่งดีงามไว้ นั้นก็คือ เฮง เฮง เฮง




เครดิต :
https://www.facebook.com/siriwanna.jill/posts/453273278140246

Viewing all articles
Browse latest Browse all 1730

Trending Articles